วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2560

บริการต่างๆของไปรษณีย์ไทย


    ไปรษณีย์ไทยคือการบริการรับฝากขนส่งสิ่งของ พัสดุและจดหมายทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศที่คนไทยใช้บริการกันอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ไปรษณีย์ไทยยังมีการให้บริการอีกหลายด้านเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนนอกเหนือจากการให้บริการด้านการส่งไปรษณีย์แล้วยังมีการให้บริการด้านการเงิน การจำหน่ายตราไปรษณีย์อากรหรือของที่ระลึกและยังมีการจำหน่ายสินค้าไปรษณีย์อีกด้วย

บริการที่คนนิยมใช้กันมากก็คือบริการรับส่งไปรษณีย์ภัณฑ์ต่างๆไม่ว่าจะเป็นจดหมายหรือพัสดุ แบ่งประเภทการส่งเป็นสามประเภทคือ
  1. การส่งแบบธรรมดา ข้อดีของการส่งประเภทนี้คือเสียค่าบริการถูกมากแต่ข้อเสียคือความเสี่ยงที่ของจะสูญหายก็สูงมากเช่นกัน เพราะการส่งประเภทนี้จะทำการตรวจสอบหรือเช็คสถานะของจดหมายหรือพัสดุผ่านเว็บไซต์ไม่ได้และก็ใช้ระยะเวลาในการส่ง4-7วันซึ่งนานกว่าการส่งประเภทอื่นๆ
  2. การส่งแบบลงทะเบียน การส่งประเภทนี้จะเสียค่าส่งแพงกว่าแบบแรกซึ่งคิดตามน้ำหนักของสิ่งที่ต้องการจะส่ง แต่ข้อดีคือผู้ส่งสามารถตรวจสอบหรือเช็คสถานะพัสดุได้ทางเว็บไซต์ของไปรษณีย์ไทยที่จะมีการแจ้งเตือนเมื่อของเดินทางไปถึงและมีการเซ็นรับที่ปลายทางเพื่อป้องกันการสูญหาย การส่งประเภทนี้จะใช้เวลาส่งเร็วกว่าการส่งแบบแรกซึ่งไม่เกิน2-5วัน
  3. การส่งแบบด่วนพิเศษ หรือเรียกอีกอย่างว่า การส่งEMS การส่งประเภทนี้จะเสียค่าส่งแพงที่สุดยิ่งของที่ส่งมีน้ำหนักมากค่าส่งก็จะยิ่งแพงตามไปด้วย แต่ข้อดีคือสามารถตรวจสอบสถานะพัสดุได้ตลอดทางที่พัสดุเดินทางไปและมีการเซ็นรับที่ปลายทางเพื่อที่จะตรวจสอบได้หากเกิดการสูญหายของพัสดุ การส่งประเภทนี้จะถึงที่หมายไวมากไม่เกิน1-3วันทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับระยะทางของผู้ส่งและผู้รับด้วย หากพัสดุที่ส่งเกิดชำรุดเสียหายก็จะมีการชดเชยเงินให้ไม่เกิน2,000บาท
   บริการด้านการเงิน คือการรับฝากหรือการรับชำระเงินจากผู้ที่มาใช้บริการที่ทำการไปรษณีย์เพื่อจ่ายเงินให้แก่หน่วยงานที่ได้ทำการตกลงกันไว้กับไปรษณีย์ไทย ซึ่งบริการการเงินแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ
  1. บริการธนาณัติ คือการที่ไปรษณีย์ต้นทางรับฝากเงินจากผู้ส่งแล้วนำไปออกตราสารและคำสั่งจ่ายเงินที่ไปรษณีย์ปลายทางซึ่งก็คือธนาณัติเพื่อสั่งจ่ายเงินให้แก่ผู้ที่มีชื่อระบุอยู่ในตราสารนั้น
  2. บริการไปรษณีย์เก็บเงินปลายทาง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสั่งซื้อสินค้าแต่ไม่สะดวกโอนเงินผ่านบัตรATMหรือธนาคาร แต่บริการนี้ไม่ค่อยนิยมใช้กันมากนักเนื่องจากผู้ส่งก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายมากขึ้นและผู้รับก็ต้องเดินทางไปจ่ายเงินด้วยตัวเองที่ไปรษณีย์จึงจะสามารถรับของได้
  3. บริการชำระเงินที่ไปรษณีย์ (PAY AT POST) เช่นการชำระค่าน้ำประปาและค่าไฟ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกสาขาใกล้บ้านโดยเสียค่าธรรมเนียมเล็กน้อยต่อบิลแลกกับความสะดวกสบาย
   การจำหน่ายตราไปรษณีย์อากร หมายถึงการจำหน่ายแสตมป์ที่ต้องใช้ในการส่งจดหมายรวมไปถึงการจัดจำหน่ายดวงตราไปรษณีย์อากรหรือของที่ระลึก ตราไปรษณีย์อากรแบบพิเศษ สมุดตราไปรษณีย์อากรประจำปี บัตรภาพตราไปรษณีย์อากร และสิ่งสะสมอื่นๆที่ทางไปรษณีย์ไทยจัดทำขึ้นในวาระพิเศษของแต่ละปี นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับไปรษณีย์หรือสิ่งที่ต้องใช้ในการส่งพัสดุและจดหมายด้วยเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มาใช้บริการที่ไม่ได้เตรียมวัสดุอุปกรณ์มาเอง ซึ่งสินค้าที่ไปรษณีย์ทำการจัดจำหน่ายก็จะมี ซองจดหมาย ซองไปรษณีย์พลาสติก ซองขยายข้าง ซองกันกระแทก กล่องพัสดุสำเร็จรูปขนาดต่างๆ เชือกมัดกล่อง กล่องกระดาษลูกฟูก วัสดุกันกระแทก ถุงไปรษณีย์พลาสติก และตู้รับไปรษณียภัณฑ์ประจำบ้าน เป็นต้น

วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

คุณสมบัติของถุงพลาสติกแต่ละประเภทและข้อบ่งใช้

คุณสมบัติของถุงพลาสติกในแต่ละประเภท และข้อบ่งใช้

     ถุงพลาสติกกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทยในปัจจุบันไปแล้วไม่ว่าจะเป็นถุงหูหิ้วที่ใช้เวลาไปซื้อของ ถุงพลาสติกใสเมื่อไป ซื้ออาหาร ถุงแก้วฝากาวใส่ขนมหรือแผ่นซีดี และแม้แต่เวลาทิ้งขยะก็ยังต้องใช้ถุงพลาสติกสีดำ จะเห็นได้ว่าถุงพลาสติกอยู่ในชีวิตของเราตลอดเวลาซึ่งถุงพลาสติกแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป

โดยถุงพลาสติกที่นิยมใช้กันหลักๆมีอยู่ 3 ประเภทคือ

  1. ถุงร้อน ไว้ใช้ใส่ของร้อนที่มีอุณหภูมิสูง100-120องศาเซลเซียสแล้วแต่ชนิดของถุงที่เลือกซื้อมา และยังสามารถใส่อาหารที่มีไขมันได้แต่ถุงร้อนก็ยังมีข้อแม้อยู่บางประการ คือไม่ควรนำของร้อนหรืออาหารที่พึ่งผ่านความร้อนมาใหม่ๆใส่ถุงเลยเพราะอาหารจะมีอุณหภูมิสูงมากและถ้าสูงเกินไปก็อาจทำให้มีการปนเปื้อนสารจากถุงพลาสติกได้ และถุงร้อนเองก็ไม่ควรนำมาใส่อาหารแช่แข็งเพราะจะทำให้ถุงพลาสติกมีความเปราะและเกิดการฉีกขาดได้
  2. ถุงเย็น ใช้บรรจุของทั่วไป หรือบรรจุอาหารที่มีอุณหภูมิปกติไปจนถึงอาหารแช่แข็งแต่ไม่สามารถบรรจุของร้อนได้เพราะถุงเย็นทนอุณหภูมิได้ไม่เกิน70องศาเซลเซียส และหากนำถุงเย็นไปใส่อาหารร้อนที่มีอุณหภูมิสูงก็จะทำให้ถุงปล่อยสารปนเปื้อนที่เป็นพิษต่อร่างกายออกมาสู่อาหารได้
  3. ถุงหูหิ้วหรือเรียกอีกอย่างว่าถุงก๊อปแก๊ป ผลิตจากการนำถุงพลาสติกใช้แล้วมาทำความสะอาดแล้วหลอมรวมกันใหม่ ซึ่งถุงหูหิ้วมีไว้ใส่ของทั่วไปแต่ไม่ควรนำมาใส่อาหารโดยตรงเพราะถุงชนิดนี้จะทำให้อาหารมีสารปนเปื้อนมากกว่าถุงพลาสติกชนิดอื่น
  4. ถุงแก้วใส OPP เป็นถุงพลาสติกที่เป็นที่นิยมอีกประเภทหนึ่ง เพราะเป็นทั้งบรรจุภัณฑ์ และยังสามารถโชว์ของที่อยู่ด้านในได้อย่างสวยงาม มีความหนา แข็งขึ้นกับประเภทที่ใช้งาน เช่น ใส่ขนม, ใส่เสื้อผ้า, ใส่ของชำร่วย, ใส่ตุ๊กตา, ใส่เครื่องเขียนต่างๆ ฯลฯ บางประเภทมาพร้อมกับลายพิมพ์หลากสีสัน เพื่อเพิ่มความสวยงาม

    ข้อสำคัญที่ควรระวังที่สุดก็คือห้ามนำถุงพลาสติกทุกชนิดที่ไม่ได้ผลิตมาพิเศษ ใส่อาหารเข้าไมโครเวฟเด็ดขาด เพราะจะทำให้ถุงพลาสติกละลายหรือไหม้ และอาหารก็จะรับประทานต่อไม่ได้

    แต่อย่างไรก็ตามการใช้ถุงพลาสติกที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเลือกใช้ถุงพลาสติกผิดประเภทไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ในการใช้งานก็อาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของสารพิษที่จะส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้ เราจึงควรหันมาใช้วัสดุทดแทนถุงพลาสติกเพื่อป้องกันอันตรายจากการปนเปื้อนด้วยและยังเป็นการช่วยลดโลกร้อนและรักษาสิ่งแวดล้อมไปในตัวด้วย เช่น เวลาไปจ่ายตลาดหรือไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตต่างๆให้นำตะกร้าไปด้วยเพื่อใช้ใส่ของแทนการใช้ถุงพลาสติก เมื่อไปซื้ออาหารถ้าหากซื้อเพื่อกลับไปกินที่บ้านก็ให้ใช้ปิ่นโตใส่อาหารแทนการใส่ถุงพลาสติก หรือเปลี่ยนมาใช้ขวดแก้วแทนการใช้ขวดพลาสติกเป็นต้น ด้วยวิธีง่ายๆเพียงเท่านี้

วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ถุงกระดาษหรือถุงพลาสติก ส่งพัสดุใช้ซองไหนถูกกว่ากันแน่

        ในธุรกิจร้านค้าออนไลน์ การจัดส่งของเป็นช่องทางสำคัญในการส่งต่อสินค้าระหว่างร้านค้าและลูกค้า ซึ่งจะเสร็จสิ้นกระบวนการซื้อขายได้ก็ต่อเมื่อ สินค้าได้ถึงมือลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยสมบูรณ์โดยไม่มีข้อผิดพลาดอันใด นอกจากการเลือกบริษัทขนส่งที่ไว้วางใจแล้ว บรรจุภัณฑ์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ในบทความนี้เราจะยกตัวอย่างไปยังร้านค้าออนไลน์ประเภทเสื้อผ้ากัน

        การส่งพัสดุในปัจจุบันมีหลายช่องทางให้เลือกกันตามความสะดวกของแต่ละร้านค้า ซึ่งมีต้นทุนและความรวดเร็วในการจัดส่งต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งของรัฐบาลอย่างไปรษณีย์ไทย หรือบริษัทเอกชนต่างๆ ที่มีมากมายให้เลือกหลายเจ้าด้วยกัน นอกจากค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปในการจัดส่งสินค้าแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ร้านค้าทุกร้านจะต้องคำนึงถึงก็คือต้นทุนของบรรจุภัณฑ์ นั่นก็คือซองหรือกล่องที่ใช้บรรจุสินค้า รวมถึงอุปกรณ์ในการห่อ ไม่ว่าจะเป็นเทปกาว ปากกา สติกเกอร์ ไปจนถึงตราประทับ แล้วแต่การเลือกใช้ของแต่ละร้าน สำหรับร้านค้าเสื้อผ้าออนไลน์ที่จำหน่ายให้กับลูกค้าปลีก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะซื้อจำนวนน้อยเพียง 1-2 ชิ้น ต่อการสั่งซื้อหนึ่งครั้ง การบรรจุลงซองจึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการบรรจุลงกล่อง เนื่องจากขนย้ายสะดวกและน้ำหนักเบากว่า ทำให้มีต้นทุนในการจัดส่งถูกกว่า ถ้ากล่าวถึงซองใส่สินค้า สิ่งแรกที่นึกถึงก็คงหนีไม่พ้นซองกระดาษสีน้ำตาลใส่เอกสารที่มีวางขายอยู่ทั่วไป ในไปรษณีย์ไทยก็มีขายเพียงซองน้ำตาลลักษณะนี้ สำหรับร้านค้าที่เคยใช้ซองแบบนี้อาจจะประสบกับปัญหา เทปกาวที่ซองติดไม่แน่น จะต้องใช้เทปใสแปะพันอีกรอบ หรือใช้ลวดเย็บกระดาษย้ำทับไปอีกที เมื่อสินค้าถึงมือลูกค้าซองอาจเกิดการฉีกขาด หรือขาดจากการโดนน้ำ สินค้าเสียหายอย่างแน่นอนถ้าไม่ได้ห่อหุ้มพลาสติกด้านในก่อนใส่ซอง อีกทางเลือกหนึ่งของการแก้ปัญหาเหล่านี้ก็คือ ซองไปรษณีย์พลาสติก ส่วนเรื่องต้นทุนหลายคนอาจจะมองว่าเป็นพลาสติกนั้นแพงกว่ากระดาษหรือไม่ บอกได้เลยว่าควบคุมได้พอๆ กับการใช้ซองกระดาษ คำนวณรวมแล้วอาจจะถูกกว่าอีกด้วยซ้ำ

ข้อดีของการใช้ถุงไปรษณีย์พลาสติกก็คือ

  •  ซองมีความเหนียวป้องกันการฉีกขาดระหว่างขนส่ง
  •  สามารถบรรจุของในปริมาณที่มากกว่าซองกระดาษ เนื่องจากพลาสติกมีความยืดหยุ่นสูง
  •  กันน้ำได้ 100% หน้าฝนก็ไม่ต้องกลัวว่าสินค้าจะเปียก
  •  กาวที่ใช้ปิดซองหนาแน่นยากต่อการดึงออกด้วยมือ ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกเปิดออกโดยผู้อื่นก่อนถึงมือลูกค้า ต้องใช้ของมีคมตัดในการเปิดซองเท่านั้น
  •  ลดต้นทุนของการใช้อุปกรณ์เสริม จำพวกเทปกาว ลวดเย็บกระดาษ ถุงพลาสติกที่ใช้ห่อหุ้มชั้นในก่อนบรรจุใส่ซองกระดาษ
  •  มีน้ำหนักเบากว่าซองกระดาษ ทำให้ค่าใช้จ่ายของการขนส่งถูกลง ในกรณีต้องชั่งน้ำหนักพัสดุก่อนการส่ง
  •  สามารถสั่งพิมพ์จ่าหน้าที่อยู่ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลากับการเขียนด้วยปากกา แปะสติกเกอร์ หรือประทับตราที่ซอง การบรรจุสินค้าให้กับลูกค้าหลายรายจึงทำได้รวดเร็วและประหยัดเวลาไปได้อีกมาก
        ร้านค้าเสื้อผ้าออนไลน์ร้านไหนที่ยังใช้ซองกระดาษในการส่งของอยู่ และคิดว่าสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนั้นสร้างปัญหาให้กับธุรกิจของคุณ สินค้ามีความเสียหาย ได้รับการตำหนิจากลูกค้า ทำให้ภาพลักษณ์ของร้านเสียความน่าเชื่อถือ ซ้ำร้ายไปถึงไม่ได้กำไรจากการขาย เนื่องจากต้องส่งสินค้าชิ้นใหม่ไปให้ลูกค้า โดยไม่สามารถเก็บเงินค่าส่งกับลูกค้าอีกได้ สิ่งเหล่านี้ทำให้การซื้อซ้ำจากลูกค้าไม่เกิดขึ้น เพราะขาดความเชื่อมั่นกับทางร้าน อาจเสียลูกค้าขาประจำไปโดยใช่เหตุ เห็นผลเสียแบบนี้แล้ว อยากลองเปลี่ยนใจมาใช้ซองไปรษณีย์พลาสติกกันดูหรือไม่ ปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไปได้ ซึ่งคุ้มค่ากับต้นทุนที่จะต้องเสียไปอย่างแน่นอน